เลนส์แว่นตามีกี่แบบ เหมาะกับใครบ้าง
เลนส์แว่นสายตาในปัจจุบันมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาสายตา ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง การทำความเข้าใจว่าเลนส์แว่นตามีกี่แบบและเลนส์แว่นตาแต่ละแบบต่างกันอย่างไรจะช่วยให้คุณเลือกเลนส์แว่นตาที่เหมาะกับสายตาของคุณได้ โดยเราจะพาคุณไปรู้จักกับเลนซ์ 3 ประเภทหลัก ได้แก่ เลนส์ชั้นเดียว (Single Vision Lens) เลนส์สองชั้น (Bifocal) และ เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) พร้อมทั้งบอกข้อดีและข้อเสียของเลนส์แต่ละแบบ เพื่อให้คุณสามารถหาเลนส์ที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ
เลนส์ชั้นเดียว (Single Vision Lens)
เลนส์ชั้นเดียวเป็นเลนส์ประเภทที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น หรือสายตายาว เลนส์ประเภทนี้จะมีค่าสายตาเพียงค่าเดียว ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนในระยะใดระยะหนึ่งเท่านั้น
ข้อดี
ใช้งานง่าย
เลนส์ชั้นเดียวมีความตรงไปตรงมาและใช้งานง่าย ให้การมองเห็นที่ชัดเจนสำหรับจุดโฟกัสเดียว กิจกรรมที่เหมาะกับเลนส์ประเภทนี้ ได้แก่ อ่านหนังสือ ขับรถ หรือการดูโทรทัศน์
คุ้มค่า
เนื่องจากเป็นเลนส์ประเภทพื้นฐานที่สุด เลนส์ชั้นเดียวจึงมีราคาถูกกว่าเลนส์สองชั้นหรือเลนส์โปรเกรสซีฟ
จุดด้อย
ฟังก์ชันการทำงานที่จำกัด
ข้อเสียหลักของเลนส์ชั้นเดียวคือฟังก์ชันการทำงานที่จำกัด หากคุณต้องการการมองเห็นทั้งระยะใกล้และไกล คุณจะต้องใช้แว่นตาหลายอันสลับกัน
ปัญหาสายตายาวตามอายุ
ปัญหาสายตายาวตามอายุพบได้เมื่อคุณมีอายุมากขึ้น จากผลสำรวจพบว่ามักจะเกิดขึ้นในช่วงอายุ 40 ปี หากเดิมคุณสายตาสั้นและเริ่มประสบปัญหาสายตายาวตามอายุ การเลือกใช้เลนส์ชั้นเดียวจะไม่สามารถแก้ไขการมองเห็นได้ทั้งระยะใกล้และไกลพร้อมกันได้
เหมาะกับใคร
เลนส์สายตาชั้นเดียวเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับบุคคลที่ชอบความคมชัดแบบ field of view กว้างและมีปัญหาสายตาอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น สายตาสั้น หรือ สายตายาว และเพิ่มค่าสายตาเอียงได้
2. เลนส์สองชั้น (Bifocal)
เลนส์สองชั้นได้รับการออกแบบมาสำหรับบุคคลที่มีภาวะสายตายาวตามอายุ ซึ่งเป็นภาวะที่ส่งผลต่อการมองเห็นระยะใกล้เมื่ออายุมากขึ้น เลนส์สองชั้นสามารถมองได้ทั้งสองระยะ เลนส์หนึ่งสำหรับการมองเห็นระยะไกล และอีกเลนส์หนึ่งสำหรับระยะใกล้ โดยจะมีเส้นอยู่บนเลนส์ซึ่งเป็นรอยต่อของเลนส์ทั้งสองระยะ
ข้อดี
มองเห็นสองระยะ
ข้อได้เปรียบของเลนส์สองชั้นคือความสามารถในการมองเห็นทั้งระยะไกลและระยะใกล้ภายในแว่นตาคู่เดียว
ไม่จำเป็นต้องใช้หลายคู่
การใช้เลนส์สองชั้นในคนที่มีภาวะสายตายาวตามอายุช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องสลับแว่นตาหลายๆ คู่เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ
จุดด้อย
เส้นที่มองเห็นได้
ข้อด้อยอย่างหนึ่งของเลนส์สองชั้นคือเส้นที่อยู่บนเลนส์ โดยไว้แยกการมองเห็นระหว่างระยะใกล้และไกล ในด้านความสวยงามอาจไม่ถูกใจในบางคน
การมองเห็นระยะกลางมีจำกัด
เลนส์ชนิดนี้อาจไม่เหมาะสมสำหรับการมองเห็นระยะกลาง เช่น การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์
เหมาะกับใคร
เลนส์สองชั้น
ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีภาวะสายตายาวตามอายุ ช่วยให้สามารถรับมือกับการมองเห็นทั้งระยะใกล้และไกล และเหมาะกับผู้ที่ต้องทำกิจกรรมหลายอย่างที่ต้องใช้ทั้งการมองเห็นทั้งสองระยะ
3. เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens)
เลนส์โปรเกรสซีฟ หรืออาจเรียกได้ว่าเลนส์สองชั้นแบบไม่มีเส้น หรือเลนส์หลายโฟกัส ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาสายตายาวตามอายุและยังให้ความสวยงาม เลนส์โปรเกรสซีฟต่างจากเลนส์สองชั้นตรงที่สามารถสลับระยะการมองเห็นระหว่างการมองเห็นระยะไกล ระยะกลาง และระยะใกล้ได้อย่างราบรื่น โดยไม่มีเส้นที่อยู่บนเลนส์
ข้อดี
การเปลี่ยนเลนส์ที่ราบรื่น
เลนส์โปรเกรสซีฟสามารถเปลี่ยนค่าสายตาได้อย่างราบรื่น ช่วยให้ผู้สวมใส่มองเห็นได้ชัดเจนในทุกระยะ โดยไม่เกิดภาพกระโดดหรือภาพเปลี่ยนกะทันหันแบบเลนส์สองชั้น
ความสวยงาม
เนื่องจากไม่มีเส้นที่มองเห็นได้บนเลนส์ แว่นตาโปรเกรสซีฟจึงมีความสวยงามและโปรเฟรชชั่นนอลมากกว่าเมื่อเทียบกับเลนส์สองชั้น
การรองรับการมองเห็นระดับกลาง
เลนส์โปรเกรสซีฟได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการการมองเห็นระดับกลาง เช่น การใช้งานคอมพิวเตอร์
จุดด้อย
ใช้ระยะเวลาในการปรับตัว
ผู้สวมใส่บางรายอาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการทำความคุ้นเคยกับเลนส์ชนิดนี้
ราคา
โดยทั่วไปแล้ว เลนส์โปรเกรสซีฟจะมีราคาแพงกว่าเลนส์ชั้นเดียวและเลนส์สองชั้น เนื่องจากมีการออกแบบขั้นสูง
เหมาะกับใคร
ผู้ที่ต้องการการมองเห็นที่ชัดเจนในระยะต่างๆ ต้องการตัวเลือกที่หลากหลายมากกว่าเลนส์สองชั้น และต้องการรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและไร้รอยต่อ เลนส์ชนิดนี้ยังเหมาะกับพนักงานออฟฟิศหรือผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นประจำ เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟมีการมองเห็นระดับกลาง
สรุป
การเลือกเลนส์แว่นตาที่เหมาะสมสามารถแก้ปัญหาสายตาของคุณได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้เลนส์สายตาชั้นเดียว เลนส์สองชั้น หรือเลนส์โปรเกรสซีฟ ขึ้นอยู่กับปัญหาสายตา ไลฟ์สไตล์ และความชอบส่วนตัวของคุณ เลนส์แต่ละประเภทมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจเลนส์แต่ละประเภทร่วมกับปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณเลือกเลนส์ที่เหมาะกับคุณที่สุด
ความสำคัญของนักทรรศนมาตร
สุดท้ายนี้ นักทัศนมาตรที่ดีจะช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น พวกเขาเข้าใจทั้งแฟชั่นและการใช้งานของแว่นตา
ที่ Niche Nation เราบริการด้วยความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ ทีมงานของเราประกอบด้วยนักทัศนมาตรและผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี ทุ่มเทเพื่อให้คำปรึกษาชั้นยอดสำหรับการตรวจวัดสายตาและการเลือกกรอบแว่น
พบกับพวกเราได้ที่ Central Embassy
02 160 5825